เมื่อการประชุมด้วย Video Conference ในช่วง WFH กลายเป็นเรื่องธรรมดา จนขนาดที่ว่าในภาษาอังกฤษได้เกิดคำกริยาใหม่ที่เกิดจากการพูดคุยประชุมผ่าน Zoom ว่า Zooming กันแล้ว วันนี้ Factsheets จะพาทุกท่านไปรู้จักกับซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Zoom นั่นก็คือ อีริค หยวน (Eric Yuan) เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของชายคนนี้กัน
—————————-
วัยเด็กและการศึกษา
—————————-
อีริค หยวน เกิดและเติบโตที่เมืองไท่อัน มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นวิศวกรด้านธรณีวิทยา ในวัยเด็ก อีริคมีงานอดิเรกคือการเก็บเศษวัสดุก่อสร้างที่เป็นทองแดงเพื่อรีไซเคิลไปขายเพื่อมีรายได้พิเศษ
อีริค เติบโตขึ้นจนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชานตง ในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์ และเลือกเรียนวิชาโทคอมพิวเตอร์ประยุกต์ โดยในระหว่างที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 อีริคได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาซอฟต์แวร์โทรศัพท์แบบเห็นหน้า (Video telephony) ในระหว่างที่นั่งรถไฟ 10 ชั่วโมงเพื่อไปหาแฟนสาว ซึ่งต่อมาก็คือภรรยาของเค้า จากการที่เค้ากำลังมองหาวิธีที่ง่ายกว่าในการ “ไปหา” เธอ
อีริคเรียนจบปริญญาตรีสาขาดังกล่าว และเรียนต่อปริญญาโทในด้านวิศวกรรมธรณีวิทยาเช่นเดียวกับพ่อของเค้า จบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเหมืองแร่และเทคโนโลยีในกรุงปักกิ่ง
———————
ชีวิตการทำงาน
———————
หลังจบปริญญาโทในปี 1995 อีริคมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 เดือน และในช่วงเดียวกันนั้นเอง บิล เกตส์ ก็ได้เดินทางไปบรรยายที่ญี่ปุ่นพอดี การได้ฟังคำกล่าวของบิล เกตส์ ครั้งนั้นได้ทำให้อีริคมีความฝันที่จะเดินทางไปทำงานในสหรัฐอเมริกา
อีริคได้รับวีซ่าให้เดินทางไปสหรัฐจากการยื่นขอในครั้งที่ 9 และแม้ตอนนั้นอีริคพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมากด้วยซ้ำ อีริคก็ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานยุคก่อตั้งของ WebEx สตาร์ทอัพด้าน Video Conference ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของเค้าตั้งแต่เรียนปริญญาตรี และผ่านช่วงเวลาที่ WebEx ถูกเข้าซื้อโดย Cisco ในปี 2007 และในปีเดียวกันนั้นเอง อีริคได้รับแต่งตั้งให้เป็น Vice President ด้านวิศวกรรมของ WebEx และได้รับสัญชาติอเมริกัน
ในปี 2011 อีริคได้นำเสนอแผนการพัฒนาระบบ Video Conference ที่เป็นมิตรกับสมาร์ทโฟน แต่แนวคิดนี้ก็ไม่ได้รับความสนใจ ทำให้อีริคและพนักงาน WebEx 40 ชีวิต ออกมาก่อตั้ง Zoom ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้
——————————–
การพุ่งทยานของ Zoom
——————————–
ถ้าเราเป็นคนที่ใช้งานเทคโนโลยีเพื่อสื่อสารมากในระดับหนึ่ง เราจะรู้อยู่แล้วว่ามีเครื่องมือหลายตัวที่สามารถใช้ประชุม Video Conference ได้ บางตัวเกิดขึ้นมานาน ไม่ว่าจะที่ทำงานเก่าของอีริคอย่าง WebEx เจ้าตลาดเดิมอย่าง Skype หรือ Social Media ต่าง ๆ ก็มีฟีเจอร์ในการ Video call พร้อมกันหลาย ๆ คนอย่างคับคั่ง ก็ยิ่งทำให้เราสงสัยว่าทำไม Zoom ถึงได้รับความนิยม และกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่จะใช้ประชุมในระหว่างการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกเริ่มต้น
สิ่งที่นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีสรุปออกมาถึงเหตุผลที่ Zoom ประสบความสำเร็จขึ้นมาได้เอาไว้ดังนี้
1. Zoom ขายแพ็คเกจแบบ 3 in 1 (ความละเอียดแบบ HD + ใช้กับอุปกรณ์พกพาได้ + ใช้บนเว็บก็ได้) ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาด ซึ่งคู่แข่งอื่น ๆ ที่ราคาแพงกว่ามีมากสุดแค่ 2 in 1 เท่านั้น เมื่อมีความต้องการใช้เกิดขึ้นแล้วมีการนำมาเปรียบเทียบ ข้อได้เปรียบนี้ของ Zoom ก็เด่นชัดขึ้นทันที
2. Zoom สามารถใช้งานผ่าน Web browser ก็ได้ แถมยังมีประสิทธิภาพสูง เพราะ Zoom ทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความดีเลย์ต่ำมาก นั่นคือต้องไม่เกิน 150 มิลลิวินาที ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะช้า
3. การที่ Zoom มาทีหลังคู่แข่งรายอื่น ทำให้มีโอกาสเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากคนอื่น ๆ และได้รู้ถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ จะเห็นได้ว่า Zoom จัดว่าใช้งานได้ง่าย และพยายามอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ให้มากที่สุด โดยในเรื่องมุมมองเกี่ยวกับคู่แข่ง เป็นสิ่งที่หลายคนพูดถึงเป็นอย่างมาก ดังเช่นคำกล่าวของอีริคว่า
“เราไม่ได้สนใจมองถึงคู่แข่งเลย ด้วยตลาดนี้มีขนาดใหญ่ ถ้าคุณให้ความสำคัญกับคู่แข่งมากไป คุณจะสูญเสียความใส่ใจในลูกค้าได้ การทำให้ลูกค้าของเรามีความสุขมากขึ้นต่างหาก จึงจะทำให้เราชนะ”
แต่ก็ไม่ใช่จะมีเรื่องดีอย่างเดียว Zoom ก็มีปัญหาในด้านความปลอดภัยเกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งช่องโหว่ความปลอดภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกล่อเหยื่อออนไลน์ ซึ่ง Zoom ก็พยายามแก้ไขอยู่อย่างต่อเนื่อง
————————–
วันนี้ของอีริค หยวน
————————–
ข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2021 อีริคมีทรัพย์สิน 14.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับเลือกจากนิตยสาร Time ให้เป็นนักธุรกิจแห่งปี 2020 และเป็น 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกในปี 2020 ด้วย
เรื่องราวชีวิตของอีริค หยวน เป็นตัวอย่างของคนที่รู้ว่าตัวเองมีความฝันอะไร และไม่หยุดยั้งที่จะวิ่งไล่ตาม ทำมันให้เป็นจริงอย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี ที่ถึงแม้จะถูกปฏิเสธวีซ่าถึง 8 ครั้ง แต่เมื่อฝันของเค้ายังคงชัดเจน เค้าก็ยังคงมุ่งมั่นแสวงหาโอกาสต่อ ๆ ไป โดยอีริค หยวน ได้กล่าวไว้ว่า
“แม้ว่าการเดินทางในช่วงเริ่มต้นจะยาวนานและยากลำบาก แต่การเดินทางก็สนุกและน่าตื่นเต้นเช่นกัน ดังนั้นอย่ากลัวที่จะเริ่ม”