ในช่วงที่เราจะต้องกลับมา Work from home ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระยะนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากก็คือพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรา
หลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกถึงสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปในระยะหลังมานี้ นอกจากออฟฟิศซินโดรมที่เริ่มเกิดขึ้น น้ำหนักที่เริ่มเพิ่มขึ้น (อาจจะเรียกว่าอีกครั้ง) วันนี้ Factsheets ขอนำวิธีการดี ๆ ในการจัดการการรับประทานอาหารมาฝากกัน ด้วยความห่วงใยและขอให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด-19 ไปด้วยกันครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีการมีอะไรบ้าง
กำหนดเวลาอาหารให้ชัดเจน
ในสถานการณ์ปกติแล้วเรามักพบว่าฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีตารางในการจัดการเวลาในแต่ละวันที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำ การแต่งตัวที่เอื้อต่อการทำงาน การกำหนดช่วงเวลาที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ที่สำคัญก็คือ การรับประทานอาหาร
Wilma MacDonald ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่า การทานจุกจิกเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของการทำงานที่บ้าน ดังนั้นเราควรที่จะจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้เป็นระเบียบ มีการพักทานมื้อเที่ยง และมีเวลาเบรคสำหรับทานของว่างบ้างเล็กน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ “มื้อเช้า”
MacDonald แนะนำให้ทานอาหารเช้าก่อนที่จะเริ่มทำงานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวโอ๊ตร้อน ๆ ผลไม้ ไข่ ขนมปัง โดยเน้นทานโปรตีน เนื่องจากการทานอาหารเน้นโปรตีนในมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายสามารถรักษาระดับความสมดุลของน้ำตาลในเลือดได้ดี ซึ่งจะส่งผลให้เราอยากทานของหวานหรือของจุกจิกระหว่างมื้อน้อยลง
อย่ารับประทานอาหารใกล้โต๊ะทำงาน
หากเราอยู่ที่ออฟฟิศ การทานอาหารบนโต๊ะทำงานอาจจะทำให้งานเราเสร็จเร็วขึ้นก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่เสมอไปโดยเฉพาะในการทำงานจากที่บ้าน เพราะเราจะไม่สามารถโฟกัสสองอย่างได้ดีพอในเวลาเดียวกัน ดังนั้นในเวลามื้ออาหาร ไม่ควรจะรับประทานบนโต๊ะทำงาน รวมถึงในระหว่างมื้ออาหารควรจะอยู่ห่างจากการสื่อสารออกมาระดับหนึ่งด้วย นอกจากจะดีต่อสุขภาพ ยังทำให้เราโฟกัสได้เป็นอย่าง ๆ ไป
นอกจากนั้น การพักรับประทานอาหารอย่างเดียวแบบจริงจังยังเป็นการพักสมองที่ดีด้วย ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณได้ “พัก” จากงานโดยแท้จริงในตอนที่รับประทานอาหารอยู่
ดื่มกาแฟให้พอดี
เวลาที่เราทำงานจากที่บ้าน เรามักจะดื่มกาแฟมากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอกาแฟสดที่หลายครั้งเราใช้วิธีทำกาแฟเผื่อไว้ ทำให้เราดื่มกาแฟมากกว่าตอนทำงานในที่ทำงาน
ถึงแม้ว่าการดื่มกาแฟ 4-5 แก้วต่อวันโดยทั่วไปยังถือว่าปลอดภัย แต่การจัดสรรเวลาและปริมาณกาแฟก็เป็นเรื่องสำคัญอยู่ดี เพราะกาแฟส่งผลโดยตรงกับการนอนหลับของเรา โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเวลาที่ควรดื่มกาแฟควรจะเป็นช่วงสาย ๆ คือ 9 – 11 โมง เพื่อไม่ให้คาเฟอีกไปรบกวนวงจรการนอน
นอกจากกาแฟแล้ว บ่อยครั้งที่เราทำงานแบบต่อเนื่องโดยลืมดื่มน้ำ ทุกวันนี้คนจำนวนมากดื่มน้ำน้อยเกินไป นอกจากการดื่มน้ำจะเป็นสุขอนามัยที่ดีอย่างหนึ่ง บางครั้งเวลาที่เราคิดว่าเราหิว นั่นก็อาจจะมาจากความกระหายน้ำได้ด้วยเหมือนกัน การดื่มน้ำจะช่วยลดความอยากหาอาหารว่างจุกจิกมารับประทานได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
เตรียมของว่างที่ดีต่อสุขภาพ
ทุกครั้งที่จะหาของว่างหรือของจุกจิกมารับประทาน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เราถามกับตัวเองก่อนว่า เราทำไปเพราะหิว เบื่อ เครียด รำคาญ หรือเหงา
ถ้าคำตอบคือความหิว ของว่างที่ดีควรเป็นของที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้
บางครั้ง การแก้ปัญหาความหิวระหว่างวันด้วยของว่างก็ไม่ใช่คำตอบ อาจจะเป็นเพราะเรารับประทานอาหารในมื้อหลักน้อยเกินไป เราอาจจะลองเพิ่มมื้อเช้าให้มากขึ้นอีกนิด ก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาหิวระหว่างวันลงได้
ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้เราจดบันทึกมื้ออาหารไว้ด้วย เพื่อติดตามได้ว่าเรารับประทานอะไรมากไปหรือน้อยไป ก็จะทำให้เรามีชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้นในช่วง Work from home ได้อย่างดีครับ
ที่มา
https://www.huffpost.com/entry/eat-healthy-working-from-home_l_5e724b03c5b63c3b6488ee71