ทำไม “การเล่าเรื่อง” ถึงทรงพลังมากกว่าการสอนแบบบรรยาย

คงมีหลายครั้งที่พวกเราในฐานะครู อาจารย์ หรือวิทยากร พยายามที่จะสื่อสารความรู้ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และแม่นยำให้มากที่สุด
แต่สุดท้ายกลับรู้สึกว่านักเรียนของเรา “ไม่ค่อยจำ” หรือ “ไม่อิน” กับเนื้อหาที่เราอุตส่าห์เตรียมมาอย่างดีใช่ไหมครับ
ถ้าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมอยากชวนลองมองไปที่เครื่องมือง่ายๆ แต่ทรงพลังมากเครื่องมือนึง นั่นก็คือ “การเล่าเรื่อง” หรือ “Storytelling” ครับ

สมองเรารักเรื่องเล่า

นักประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า เวลาที่เราฟัง “ข้อมูลปกติ” สมองจะทำงานเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการประมวลภาษา
แต่เมื่อเราฟัง “เรื่องเล่า” สมองจะทำงานมากกว่านั้น ทั้งส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ การเคลื่อนไหว ความจำ และจินตนาการ
เหมือนเราได้เข้าไป อยู่ในเรื่อง นั้นจริงๆ เลยครับ
ลองคิดดูง่ายๆ ว่า ทำไมเราจำเรื่องในละคร หรือภาพยนตร์ได้แม่นกว่าข้อสอบ ทำไมเรายังจำเรื่องราวในวัยเด็กที่พ่อแม่เคยเล่าได้ ทั้งที่ผ่านมานานหลายสิบปี คำตอบคือ เพราะเรื่องเล่าทำให้เรา “รู้สึก” นั่นเองครับ
ความรู้ที่ “สัมผัสได้” ดีกว่าความรู้ที่ “อ่านออก”
เมื่อเราใส่เรื่องเล่าลงไปในเนื้อหาที่จะสอน
เนื้อหานั้นจะไม่ใช่แค่ “ข้อเท็จจริง” แต่กลายเป็น “ประสบการณ์ร่วม” เช่น
การอธิบายหลักความยุติธรรมแบบทฤษฎี อาจจะยากสำหรับเด็กมัธยม
แต่ถ้าเล่าผ่านเรื่องราวของเด็กที่โดนรังแก หรือไม่ยอมแพ้ต่อความอยุติธรรม เด็กจะเข้าใจทันทีว่า “ความยุติธรรม” คืออะไรในโลกจริง

ไม่ต้องเป็นนักเล่าเรื่องมืออาชีพ ก็เล่าเรื่องที่ดีได้

หลายคนอาจกลัวว่า “เราไม่ใช่นักเล่าเรื่อง” ไม่เป็นไรครับ เพราะ Storytelling สำหรับการสอนไม่ต้องสวยหรู แค่ จริงใจ และ มีจุดมุ่งหมาย
โดยเริ่มจาก
– หยิบเรื่องจริงใกล้ตัว
เช่น ประสบการณ์ในห้องเรียน เรื่องของนักเรียน หรือเหตุการณ์ประทับใจ
– โยงกลับเข้าหาเนื้อหาวิชาที่สอน
– ชวนผู้เรียนมีส่วนร่วม ด้วยคำถาม หรือให้พวกเขาเล่าเรื่องของตัวเองกลับมา สิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาจดจำเนื้อหาได้มากขึ้นครับ
ในยุคที่ข้อมูลล้นโลก “เรื่องเล่าที่มีคุณภาพ” กลายเป็นสะพานสำคัญ ที่ช่วยเชื่อมความรู้เข้ากับใจของผู้เรียน
การสอนแบบบรรยายอาจ “ให้รู้”
แต่ Storytelling จะ “ทำให้รู้สึก และจดจำ” สัปดาห์นี้ ลองเริ่มเล่าเรื่องสั้นๆ ในคลาส หรือในการอบรม แล้วลองสังเกตดูครับว่าพลังของเรื่องเล่าจะเปลี่ยนบรรยากาศในห้องเรียนไปในทิศทางไหน นักเรียนจดจำได้เพิ่มขึ้นไหม ลองดูนะครับ