Flow ของบทเรียน คืออะไร ทำไมคอร์สจึงต้องมีจังหวะที่พอดี

เป็นเรื่องปกติเลยครับ โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
หลายท่านมีความตั้งใจสูงมากในการพัฒนาคอร์สออนไลน์
ให้มีเนื้อหาแน่น ๆ แบบเต็มอิ่ม สุดทุกทาง
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นว่า ผู้เรียนรู้สึกว่าเหนื่อย
เบื่อ หรือหลุดโฟกัสระหว่างการเรียนรู้
สาเหตุหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือ Flow ของบทเรียนครับ
วันนี้ผมเลยอยากชวนทุกท่านมาทำความเข้าใจว่า…
– “Flow” คืออะไร
– “จังหวะการเรียน” สำคัญยังไง
– และมี “เทคนิค” ไหนบ้างที่ช่วยจัด Flow ให้ดีขึ้น

เริ่มที่ “Flow” ของบทเรียนคืออะไร

Flow คือ จังหวะของการเรียนรู้ที่ลื่นไหลครับ
นั่นคือการที่ผู้เรียนรู้สึกว่าเรียนได้ต่อเนื่อง
ไม่น่าเบื่อ และไม่รู้สึกติดขัด
ไม่ช้าเกินจนหลุด ไม่เร็วเกินจนไม่เข้าใจ
ไม่อัดเนื้อหาเยอะเกินไปในบทเรียนเดียว
ถ้า Flow ดี ผู้เรียนจะรู้สึกอิน และอยากเรียนต่อ
เหมือนเวลาดูซีรีย์ที่มีจังหวะต่อเนื่อง กำลังเข้มข้น
จนลืมดูเวลาเลยยังไงยังงั้นครับ

ทีนี้เราจะรู้ได้ยังไง อะไรคือสัญญาณว่า Flow ของคอร์สยังไม่ดี

ก็จะมีตั้งแต่การที่ผู้เรียนกดข้ามวิดีโอบ่อย
มี Drop-off สูงตรงบาง Module
เรียนจบจริง แต่จำเนื้อหาแทบไม่ได้
ซึ่งอาจส่งผลให้ทำแบบทดสอบหลังเรียนไม่ผ่าน
ลองย้อนดูครับว่าบทเรียนมีจังหวะต่อเนื่องไหม
หรือมีจุดไหนที่อัดแน่นเกินไป

ถ้าเรารู้แล้วว่า Flow ของบทเรียนยังไม่ดีเท่าที่ควร เราควรทำอย่างไร

ผมมีเทคนิคจัด Flow ให้บทเรียนลื่นไหลมาแนะนำ 4 เรื่องครับ
1. ลองแบ่งเนื้อหาเป็นโครงสร้าง 3 จังหวะ ตามนี้ครับ
– เริ่มด้วยการกระตุ้นความสนใจ
– แล้วค่อยอธิบายเนื้อหาหลักของบทเรียน
– ปิดท้ายด้วยการสรุป และจุดประเด็นชวนคิดต่อ
2. จัดลำดับเนื้อหาแบบสลับเบา-หนัก
เช่นใช้วิธีการถ่วงสมดุลครับ
แบ่งให้มีทั้งเนื้อหาเบา ๆ กับหนัก ๆ สลับกันไป
3. กิจกรรมพักสมอง
ใส่คำถามชวนคิด หรือภาพเบา ๆ
ให้ผู้เรียนได้หายใจ ก่อนเข้าเนื้อหาถัดไป
ใช้เสียง จังหวะพูด หรือ ภาพเคลื่อนไหวช่วยจับจังหวะ
ถ้าเนื้อหาหนัก ให้พูดช้าลง และใช้ภาพประกอบช่วย
ถ้าเนื้อหาเบา ให้พูดเร็วขึ้นเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นผู้เรียน
4. ใช้ Infographic สรุปเป็นระยะ
สร้าง Flow ผ่านภาพ ให้ผู้เรียนรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของบทเรียน
.

เครื่องมือแนะนำ

อาจใช้ Miro หรือ Whimsical วาง Flow เป็น Mind Map
อาจใช้ Canva ทำภาพสรุปเนื้อหาท้ายบท
หรือใช้ Google Forms / H5P สร้างกิจกรรมคั่นเนื้อหาก็ได้ครับ
.
คอร์สที่ดีไม่ใช่แค่เนื้อหาดีครับ แต่ต้องมี “จังหวะที่ลื่นใหล”
ที่ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง มีพลังใจ อยากไปต่อ
ลองกลับไปดูคอร์สของทุกท่านนะครับ