fbpx

สถิติผู้จ่ายค่าบริการสตรีมเพลงทั่วโลก – Factsheet No.17

พีรพัทธ์ นันนารารัตน์

แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยที่ทุกแพลตฟอร์มต่างมีกลยุทธ์ในการสร้างระดับการเข้าถึงที่แตกต่างกันออกไป บางแพลตฟอร์มให้ฟังเพลงได้ฟรีแบบมีโฆษณา แบบฟรีเมียมที่สามารถเลือกจ่ายเงินเพิ่มเพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น หรือแบบชำระเงินเท่านั้น

การแข่งขันที่เกิดขึ้นจึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิกลดลง ไม่เพียงแค่นั้น อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงด้วยการแชร์ไฟล์แบบ Peer to peer เช่นบิททอร์เรนต์ก็ลดลงเช่นกัน

วันนี้ Factsheets จะพามาดูว่า 5 แพลตฟอร์มสตรีมเพลงที่คนไทยรู้จักกันดี มียอดผู้ใช้บริการแบบเสียเงินทั่วโลกของแต่ละรายอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วแต่ละแพลตฟอร์มมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

อันดับ 1 – Spotify จากสวีเดน
ผู้ใช้แบบเสียเงิน 155 ล้านบัญชี

เป็นบริการสตรีมเพลง พอดแคสต์ และวิดีโอ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ปัจจุบัน Spotify มีเพลงมากกว่า 60 ล้านเพลง และมีจำนวนผู้ใช้สูงถึง 345 ล้านบัญชี ในจำนวนนี้มีบัญชีแบบเสียเงินอยู่มากขึ้น 155 ล้านบัญชี โดยผู้ใช้สามารถฟังเพลงได้ทั้งแบบฟรีที่มีโฆษณา หรือหากต้องการฟังแบบไม่มีโฆษณาคั่น เล่นได้ทุกเพลง ดาวน์โหลดได้ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 139 บาทต่อเดือน

อันดับ 2 – Apple Music จากสหรัฐอเมริกา
ผู้ใช้แบบเสียเงิน 60 ล้านบัญชี

พัฒนาโดย Apple เปิดตัวเมื่อปี 2558 โดยคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ 69 บาทต่อเดือนสำหรับนักศึกษา 129 บาทต่อเดือนสำหรับบุคคล และ 199 บาทต่อเดือนสำหรับครอบครัว
ปัจจุบัน Apple Music มีเพลงมากกว่า 70 ล้านเพลง

อันดับ 3 – Amazon Music จากสหรัฐอเมริกา
ผู้ใช้แบบเสียเงิน 55 ล้านบัญชี

เป็นบริการสตรีมเพลงและร้านขายเพลงออนไลน์ที่บริหารโดย Amazon เปิดตัวเมื่อปี 2550 และเป็นร้านขายเพลงออนไลน์แห่งแรกที่ขายเพลงของ 4 ค่ายใหญ่ระดับโลกอย่าง EMI, Universal, Warner และ Sony BMG โดยที่ไม่ติดการจัดการสิทธิดิจิทัล (Digital Right Management : DRM) โดย Amazon Music มีค่าบริการอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 300 บาทต่อเดือน

อันดับ 4 – YouTube Music จากสหรัฐอเมริกา
ผู้ใช้แบบเสียเงิน 30 ล้านบัญชี

เป็นบริการสตรีมเพลงฟรีที่พัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มวีดิโอ YouTube โดยผู้ใช้สามารถเลือกจ่ายค่าบริการเพื่อตัดโฆษณา และเพิ่มความสามารถพิเศษในการเล่นเพลงแบบเสียงเท่านั้น (Background playback) รวมถึงสามารถดาวน์โหลดเพลงได้ในราคาเดือนละ 129 บาท

อันดับ 5 – SoundCloud จากเยอรมนี
ผู้ใช้แบบเสียเงิน 1.7 ล้านบัญชี

เป็นทั้งบริการสตรีมเพลง และเป็นเครือข่ายแชร์เพลงออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดเพลงของตัวเองขึ้นไปโชว์ผลงานได้ ทำให้ SoundCloud ได้ร่วมสร้างศิลปินคุณภาพขึ้นจำนวนมาก โดย SoundCloud ได้เปิดตัว SoundCloud Go เมื่อปี 2559 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงได้แบบไม่มีโฆษณา มีค่าบริการต่อเดือนเริ่มต้นที่ 5 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 150 บาท

ที่มา
https://newsroom.spotify.com/2021-02-03/spotify-reports-fourth-quarter-2020-earnings/
https://techcrunch.com/2018/03/28/pandora-takes-on-spotify-with-dozens-of-personalized-playlists-built-using-its-music-genome/
https://www.aboutamazon.com/news/entertainment/amazon-music-has-more-than-55-million-customers-worldwide
https://www.digitalmusicnews.com/2020/10/30/youtube-music-subscribers-2020/
https://musically.com/2020/03/26/soundcloud-go-subscription-service-launches-in-the-nordics/