fbpx

ปี: 2021

ตัวตนของชายชื่อ Eric Yuan – Factsheet No.63

เมื่อการประชุมด้วย Video Conference ในช่วง WFH กลายเป็นเรื่องธรรมดา จนขนาดที่ว่าในภาษาอังกฤษได้เกิดคำกริยาใหม่ที่เกิดจากการพูดคุยประชุมผ่าน Zoom ว่า Zooming กันแล้ว วันนี้ Factsheets จะพาทุกท่านไปรู้จักกับซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Zoom นั่นก็คือ อีริค หยวน (Eric Yuan) เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของชายคนนี้กัน —————————-วัยเด็กและการศึกษา—————————-อีริค หยวน เกิดและเติบโตที่เมืองไท่อัน มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นวิศวกรด้านธรณีวิทยา ในวัยเด็ก อีริคมีงานอดิเรกคือการเก็บเศษวัสดุก่อสร้างที่เป็นทองแดงเพื่อรีไซเคิลไปขายเพื่อมีรายได้พิเศษ อีริค เติบโตขึ้นจนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชานตง ในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์ และเลือกเรียนวิชาโทคอมพิวเตอร์ประยุกต์ โดยในระหว่างที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 อีริคได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาซอฟต์แวร์โทรศัพท์แบบเห็นหน้า (Video telephony) ในระหว่างที่นั่งรถไฟ 10 ชั่วโมงเพื่อไปหาแฟนสาว ซึ่งต่อมาก็คือภรรยาของเค้า จากการที่เค้ากำลังมองหาวิธีที่ง่ายกว่าในการ “ไปหา” เธอ อีริคเรียนจบปริญญาตรีสาขาดังกล่าว และเรียนต่อปริญญาโทในด้านวิศวกรรมธรณีวิทยาเช่นเดียวกับพ่อของเค้า จบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเหมืองแร่และเทคโนโลยีในกรุงปักกิ่ง ———————ชีวิตการทำงาน———————หลังจบปริญญาโทในปี 1995 อีริคมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 เดือน และในช่วงเดียวกันนั้นเอง บิล …

ตัวตนของชายชื่อ Eric Yuan – Factsheet No.63 Read More »

แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบ MVP – Factsheet No.62

วันนี้ Factsheets จะขอมาเล่าให้ฟังสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับแนวทางหนึ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปทดสอบใช้ พิสูจน์ความต้องการ หรือส่งมอบได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือแนวคิดแบบ MVP (Minimum Viable Product) ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ ผลิตภัณฑ์ขั้นต่ำที่สุดที่สามารถใช้งานได้ คำว่า MVP ถูกใช้ครั้งแรกโดย Frank Robinson ในปี 2001 โดยจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานความสามารถหลัก (Function) ได้ก่อนในระยะแรก เพื่อให้เจ้าของสามารถทดสอบความถูกต้องของแนวคิดในวงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยตัดขั้นตอนการทำงาน ลดระยะเวลา ลดการใช้กำลังคน รวมไปทุนต้นทุนให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อนำผลการทดสอบมาปรับปรุงก่อนที่จะเพิ่มเติมความสามารถประกอบ (Feature) ต่าง ๆ เสริมเข้าไปภายหลัง ———————–ทำไมต้อง MVP———————–1. MVP สามารถปล่อยออกสู่ตลาดได้เร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานแบบเร่งด่วน2. MVP สามารถใช้ทดสอบกับผู้ใช้งานได้จริงก่อนที่จะทุ่มงบประมาณไปกับการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ3. MVP สามารถทดสอบความต้องการของตลาดและกลุ่มเป้าหมายได้ เพื่อให้รู้ว่าตรงใจตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายแค่ไหน โดยส่วนใหญ่แล้ว เหตุผลที่จะทำ MVP มักจะเป็นการทดสอบ ว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ใช้การได้ดีจริงหรือไม่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในด้านเงินทุน กำลังคน และเวลา ภาพจำของคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจ MVP …

แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบ MVP – Factsheet No.62 Read More »

Tuckman’s stages of group development – Factsheet No.61

ในแวดวงการศึกษาทั้งของไทยและโลกได้พูดถึงทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 มาพักใหญ่ ๆ แล้ว (และเราก็เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 มา 21 ปีเต็มแล้วด้วย) แต่เราก็ยังไม่สามารถสร้างคนที่มีทักษะเต็ม 100 ได้ครบหมดในรวดเดียว ทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งของศตวรรษที่ 21 นั้นคือการทำงานเป็นทีม ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะคิดว่าหัวใจของการทำงานเป็นทีมคือความสามัคคี ซึ่งก็คงไม่ได้ผิดอะไร แต่ทำไมมันถึงเป็นนามธรรมนัก จับต้องได้ยากเหลือเกิน วันนี้ Factsheets จะนำหลักการพัฒนาทีมมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้รับทราบกัน เพราะการสร้างทีมไม่ได้เป็นแค่การสั่งให้คนมาจับกลุ่มกันทำนั่นทำนี่ หรือชี้จิ้มตัวคนที่มีความสามารถเหมาะสมมารวม ๆ กันแล้วสั่งงาน ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นครับ วันนี้เราจะมาพูดถึง Tuckman’s stages of group development หรือ โมเดลระยะการพัฒนากลุ่มของทัคแมน เพื่อให้ท่านผู้อ่านไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน สมาชิกในทีม หรือโค้ชของทีม เกิดความเข้าใจมากขึ้นว่าการที่เราจะทำงานเป็นทีมให้ได้ผลสำเร็จนั้นมีระยะ (Stages) อะไรบ้าง แล้วในแต่ละระยะเราต้องทำอะไร เพื่อให้ได้ทีมที่มีความพร้อมในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ———————————-ระยะ 1 จัดตั้ง (Forming)———————————-การเรียกกลุ่มคนว่าทีม ไม่ได้หมายความว่าเป็นการเอาคนมาอยู่ด้วยกันเท่านั้น เพราะคนแต่ละคนมีทักษะ ประสบการณ์ ทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในขั้นตอนของการสร้างทีมจึงต้องทำให้ทุกคนมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน …

Tuckman’s stages of group development – Factsheet No.61 Read More »

Trump Steak สเต็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก !!! – Factsheet No.60

สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นับประสาอะไรกับนักธุรกิจที่ถึงแม้จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาแล้วระดับโลก ก็ต้องเคยมีก้าวที่พลาดอยู่บ้างเหมือนกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยเป็นถึงประธานาธิบดีของอภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา และเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น จากการที่ครั้งหนึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ เคยลงไปเล่นในธุรกิจอาหารแบบจริงจังขนาดเอาตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสื่อโฆษณาทั้งหมด และอาหารนั้นก็คือ สเต็ก ในปี 2007 ทรัมป์เปิดตัวร้านสเต็กที่ใช้ชื่อตัวเองแบบชัด ๆ ว่า Trump Steaks พร้อมข้อความโฆษณาที่ยืนยันถึงคุณภาพว่า เป็นสเต็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้!!! (The World’s Greatest Steaks) Trump Steaks ทุ่มทุนโฆษณาอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการใช้รายการเรียลิตี้ชื่อดังของเค้าเอง อย่าง The Apprentice และผู้เข้าแข่งขันในรายการมาช่วยโปรโมท ลงปกนิตยสาร ลงโฆษณาในช่องช็อปปิ้งทางโทรทัศน์โดยปรากฎตัวเองในรายการ โดยขายผ่านร้านขายอุปกรณ์แก็ดเจ็ท The Sharper Image และช่องทีวีช็อปปิ้ง QVC ในด้านสินค้า Trump Steaks ใช้เนื้อแองกัสคุณภาพสูงจาก Buckhead Beef เหมือนที่ใช้กับโรงแรมแลกคาสิโนของเค้าเอง และจำหน่ายอาหารเป็นแพ็คเกจ สนนราคาเริ่มที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ …

Trump Steak สเต็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก !!! – Factsheet No.60 Read More »

รู้จักโมเดลการตลาด AIDA – Factsheet No.59

วันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกับกระบวนการที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อของลูกค้า หรือ Purchase funnel กัน เพื่อท่านผู้อ่านจะได้เห็นภาพมากขึ้น ว่าก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการของเรา ขั้นตอนที่เราควรจะต้องทำให้เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง คำว่า Funnel ภาษาอังกฤษจะหมายถึงกรวยน้ำ โดยเราอาจจะได้ยินคนเรียก Purchase funnel ว่า Customer funnel, Marketing funnel, Sales funnel หรือ Conversion funnel ก็ขอให้เข้าใจได้โดยรวม ๆ ไปเลยว่าคือสิ่งเดียวกันนั่นเอง โดยแนวคิด Purchase funnel มีที่มาจากโมเดลการตลาดที่เรียกว่า AIDA โมเดล AIDA เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1903 จากงานเขียนของ E. St. Elmo Lewis นักวิชาการโฆษณาชาวอเมริกันซึ่งมีอิทธิพลต่อการศึกษาด้านการโฆษณาและสื่อสารการตลาดในเวลาต่อมาอย่างสูง โดยโมเดล AIDA แบ่งลำดับขั้นของการตัดสินใจซื้อหลัก ๆ เอาไว้ 4 ขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้ A (Awareness) คือการที่กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ …

รู้จักโมเดลการตลาด AIDA – Factsheet No.59 Read More »

กินอย่างไรให้สุขภาพดี ในช่วง Work from Home – Factsheet No.58

ในช่วงที่เราจะต้องกลับมา Work from home ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระยะนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากก็คือพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรา หลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกถึงสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปในระยะหลังมานี้ นอกจากออฟฟิศซินโดรมที่เริ่มเกิดขึ้น น้ำหนักที่เริ่มเพิ่มขึ้น (อาจจะเรียกว่าอีกครั้ง) วันนี้ Factsheets ขอนำวิธีการดี ๆ ในการจัดการการรับประทานอาหารมาฝากกัน ด้วยความห่วงใยและขอให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด-19 ไปด้วยกันครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีการมีอะไรบ้าง กำหนดเวลาอาหารให้ชัดเจนในสถานการณ์ปกติแล้วเรามักพบว่าฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีตารางในการจัดการเวลาในแต่ละวันที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำ การแต่งตัวที่เอื้อต่อการทำงาน การกำหนดช่วงเวลาที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ที่สำคัญก็คือ การรับประทานอาหาร Wilma MacDonald ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่า การทานจุกจิกเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของการทำงานที่บ้าน ดังนั้นเราควรที่จะจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้เป็นระเบียบ มีการพักทานมื้อเที่ยง และมีเวลาเบรคสำหรับทานของว่างบ้างเล็กน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ “มื้อเช้า” MacDonald แนะนำให้ทานอาหารเช้าก่อนที่จะเริ่มทำงานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวโอ๊ตร้อน ๆ ผลไม้ ไข่ ขนมปัง โดยเน้นทานโปรตีน เนื่องจากการทานอาหารเน้นโปรตีนในมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายสามารถรักษาระดับความสมดุลของน้ำตาลในเลือดได้ดี ซึ่งจะส่งผลให้เราอยากทานของหวานหรือของจุกจิกระหว่างมื้อน้อยลง อย่ารับประทานอาหารใกล้โต๊ะทำงานหากเราอยู่ที่ออฟฟิศ การทานอาหารบนโต๊ะทำงานอาจจะทำให้งานเราเสร็จเร็วขึ้นก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่เสมอไปโดยเฉพาะในการทำงานจากที่บ้าน เพราะเราจะไม่สามารถโฟกัสสองอย่างได้ดีพอในเวลาเดียวกัน ดังนั้นในเวลามื้ออาหาร ไม่ควรจะรับประทานบนโต๊ะทำงาน รวมถึงในระหว่างมื้ออาหารควรจะอยู่ห่างจากการสื่อสารออกมาระดับหนึ่งด้วย นอกจากจะดีต่อสุขภาพ ยังทำให้เราโฟกัสได้เป็นอย่าง …

กินอย่างไรให้สุขภาพดี ในช่วง Work from Home – Factsheet No.58 Read More »

ยาสีฟันคอลเกต – Factsheet No.57

วันนี้เราจะมาพูดกันถึงหนึ่งในยี่ห้อยาสีฟันที่คนทั่วโลกต้องรู้จักนั่นคือยาสีฟันยี่ห้อคอลเกต (Colgate) แต่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า วิลเลียม คอลเกต ผู้ก่อตั้งบริษัท ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าบริษัทของเค้าจะมาประสบความสำเร็จจากการขายยาสีฟัน เพราะอะไรล่ะ ? รู้จักกับวิลเลียม คอลเกตวิลเลียม คอลเกต เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอังกฤษ เกิดวันที่ 25 มกราคม 1783 ที่ประเทศอังกฤษ จนปี 1798 ครอบครัวคอลเกตก็ข้ามน้ำข้ามทะเล ย้ายไปตั้งรกรากใหม่ที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และทำธุรกิจผลิต/จำหน่ายเทียนไขกับสบู่ที่นั่น และย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์คในที่สุด ในปี 1806 วิลเลียม คอลเกต ได้ริเริ่มตั้งโรงงานเทียนไขและสบู่ในชื่อ William Colgate & Company จนเขาเสียชีวิตในปี 1857 และหลังจากนั้น 16 ปี ยาสีฟันที่ทุกคนรู้จักจึงค่อยเกิดขึ้นมา ธุรกิจยาสีฟันในปี 1873 หลังจากที่ วิลเลียม คอลเกต เสียชีวิตไปแล้ว 16 ปี แซมูเอล คอลเกต ลูกชายของเขาได้เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันขึ้น โดยมีบรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้ว ใช้ชื่อสินค้าว่า Colgate’s …

ยาสีฟันคอลเกต – Factsheet No.57 Read More »

The Last Lecture – Factsheet No.56

พีรพัทธ์ นันนารารัตน์ ดร.แรนดี เพาซ์ เป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ฝากผลงานเอาไว้ในแวดวงเทคโนโลยีมากมาย นอกจากจะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้ว ยังเคยเป็นที่ปรึกษาด้าน User Interface ให้กับ Google เป็นวิศวกรด้านจินตนาการของวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney Imagineering) เคยทำงานในบริษัทเกม อิเล็กทรอนิกส์ อาร์ต (EA) แถมยังเป็นผู้ก่อตั้งโครงการ Alice ซึ่งเป็นภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับเรียนรู้ด้าน Coding แบบลากวางโครงการแรก ๆ ของโลกอีกด้วย ดร.เพาซ์ ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อนในระยะร้ายแรง ซึ่งเขาทราบดีว่าเขาเหลือเวลาอยู่อีกไม่นานนัก เขาจึงใช้เวลาที่เหลืออยู่บอกเล่าเรื่องสำคัญในชีวิตให้ผู้คนได้ตระหนัก บรรยายในฐานะอาจารย์เป็นครั้งสุดท้ายในหัวข้อ การทำฝันวัยเด็กของคุณให้เป็นจริงได้อย่างแท้จริง และออกมาเป็นหนังสือชื่อ The Last Lecture โดยได้นำเสนอให้ผู้ฟังได้แรงบันดาลใจในชีวิตจากชีวิตของเขา และสามารถนำชีวิตของเขาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตตนเองได้ โดยการบรรยายมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน ในวันที่ 18 กันยายน ปี 2007 วันนี้ Factsheets จะขอนำคำกล่าวสำคัญจากบรรยายครั้งสุดท้ายของ ดร.เพาซ์ มาลงไว้ที่นี้ เพื่อเป็นกำลังใจในการสู้ต่อไปในชีวิตของเราทุกคนครับ “เมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนไพ่ที่เราจั่วได้ สิ่งที่เราทำได้ก็คือการเปลี่ยนวิธีเล่นมัน”.”ประสบการณ์คือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อคุณไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ และประสบการณ์นั้นมักเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด” “ไม่ว่าสิ่งเลวร้ายจะเลวร้ายแค่ไหน …

The Last Lecture – Factsheet No.56 Read More »

5 บริษัทเก่าแก่ที่สุดในโลก ทำไมถึงเป็นบริษัทญี่ปุ่นหมดเลย – Factsheet No.55

พีรพัทธ์ นันนารารัตน์ วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับ 5 ธุรกิจที่ดำเนินการในรูปแบบบริษัทที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในโลกกันครับ ความน่าแปลกใจอย่างที่สุดของเรื่องราวในวันนี้ก็คือ การที่บริษัท 5 แห่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนี้ และอีกหลาย ๆ แห่ง ที่อาจจะใหม่กว่านี้ขึ้นมาอีกหน่อย มาจากที่เดียวกันหมดเลย นั่นคือประเทศญี่ปุ่น ในภาษาญี่ปุ่น เรียกกิจการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนานว่า ชินิเสะ (老舗, ร้านเก่าแก่) โดยกิจการที่เรียกว่าชินิเสะได้นั้นต้องมีอายุอย่างน้อย 100 ปี และหลาย ๆ แห่งก็มีอายุมากกว่า 1,000 ปี ดังเช่น 5 บริษัทที่เรานำมาให้รู้จักในวันนี้ นอกจากคุณผู้อ่านจะได้รู้ว่าบริษัททั้ง 5 คือที่ไหนและทำธุรกิจอะไร ในตอนท้ายเราได้ไปค้นคว้าหาความคิดเห็นและข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพิ่มเติมมาด้วย ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นจำนวนมากมีอายุยาวนานได้ขนาดนั้น เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยครับ อันดับที่ 5 – เก็นดะ ชิเกียว(Genda Shigyō) อายุ 1,235 ปีเก็นดะ ชิเกียว เป็นบริษัทกระดาษ มีที่ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต ก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ.771 สินค้าของเก็นดะ ชิเกียว คือมิซูฮิกิ …

5 บริษัทเก่าแก่ที่สุดในโลก ทำไมถึงเป็นบริษัทญี่ปุ่นหมดเลย – Factsheet No.55 Read More »

เช็คด่วน Chrome อาจปิดการแสดงผลโฆษณาของคุณ – Factsheet No.54

พีรพัทธ์ นันนารารัตน์ ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว Google Chrome ได้เริ่มทำการปิดกั้นโฆษณาที่ใช้ทรัพยากรระบบในปริมาณที่ไม่เหมาะสมจนทำให้ Web browser ทำงานช้าลง โดยจะวิเคราะห์จากการใช้งานเครือข่ายและการทำงานของซีพียู ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่โดยไม่จำเป็น ในกรณีโน้ตบุคหรืออุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ด้วยอีกทางหนึ่ง วันนี้ Factsheets จะพามาดูว่า Google Chrome ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการปิดกั้นโฆษณา และผู้สร้างสื่อโฆษณาจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาของเราจะยังคงทำงานได้ตามปกติ เหตุผลที่ต้องปิดกั้นโฆษณาปัจจุบันโฆษณาต่าง ๆ บนหน้าเว็บไม่ได้เป็นเพียงรูปภาพหรือวีดิโอธรรมดา แต่สามารถฝังสคริปต์ต่าง ๆ เอาไว้ได้ เช่น การฝั่งสคริปต์ขุดคริปโตเอาไว้ในโฆษณา เมื่อโฆษณาถูกแสดงผลบนหน้าจอของผู้ใช้ ก็จะใช้ซีพียูของผู้ใช้ไปช่วยขุดเหรียญคริปโต หรือเลวร้ายไปกว่านั้น โฆษณาอาจจะฝังสคริปต์ที่เน้นการโจมตีช่องโหว่ของซีพียูได้ด้วย รวมถึงการที่เนื้อหาโฆษณาหลายชิ้นถูกสร้างขึ้นด้วยไฟล์ภาพหรือสื่อขนาดใหญ่ที่อาจทำให้การใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้ต้องติด ๆ ขัด ๆ หรือใช้แบนด์วิดธ์มากเกินไป (ซึ่งส่งผลโดยตรงกับแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้) จึงเป็นสาเหตุที่ Google ต้องกำหนดหลักเกณฑ์การปิดกั้นโฆษณาขึ้นมา หลักเกณฑ์ที่ Chrome ใช้การวัดผลการใช้งานทรัพยากรและระบบเครือข่ายของเนื้อหาโฆษณาแต่ละชิ้นจะเริ่มต้นขึ้นในกรณีที่ผู้ใช้ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาเลย เช่น ไม่คลิก ไม่ใช้การทัช(สำหรับทัชสกรีน) ลงบนพื้นที่แสดงโฆษณา โดยมีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. เนื้อหาโฆษณาที่ใช้งานเธรดหลักของซีพียู ทำงานเป็นเวลารวมมากกว่า 60 วินาที …

เช็คด่วน Chrome อาจปิดการแสดงผลโฆษณาของคุณ – Factsheet No.54 Read More »