fbpx

บทความ

Service Design ฉบับเข้าใจง่าย – Factsheet No.66

ที่ผ่านมาเราได้พูดกันถึงการทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้ากันบ่อย ๆ ดังนั้นในวันนี้เราจะนำเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการมาฝากกันครับ ซึ่งโดยทั่วไป เมื่อเราคิดจะทำธุรกิจบริการ เราอาจจะศึกษาจากบริการนั้น ๆ ที่เราเคยพบเห็นและเคยเป็นลูกค้า ซึ่งก็ไม่ผิดเลยครับ แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราสามารถออกแบบบริการที่มีความเฉพาะเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าของเราเองได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อให้คุณผู้อ่านที่สนใจจะทำธุรกิจที่เป็นบริการ โพสต์ของเราวันนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับหลักการออกแบบบริการ หรือ Service Design กันครับ ———————–บริการคืออะไร———————–ตามหลักเศรษฐศาสตร์ดั้งเดิมได้แบ่งแยกความแตกต่างของสินค้าและบริการอย่างชัดเจนมากครับ สินค้าคือสิ่งที่ลูกค้าสามารถจับต้องและเป็นเจ้าของได้ เช่นปากกา ดินสอ เสื้อผ้า อาหาร ส่วนบริการคือสิ่งจับต้องไม่ได้และไม่ส่งผลให้เกิดความเป็นเจ้าของผ่านการซื้อ แต่เป็นการได้รับการตอบสนองด้วยกิจกรรมบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตัดผม การชมภาพยนตร์ การรักษาพยาบาล การขนส่งสาธารณะ แต่ทุกวันนี้ดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้ความแตกต่างของสินค้ากับบริการลดน้อยลง ไม่ได้สามารถแบ่งออกได้ชัดเจนอีกต่อไป เช่นร้านขายเพลงดิจิทัล ที่เป็นทั้งบริการค้นหาจัดเก็บ และเป็นธุรกิจขายสินค้าก็คือเพลงในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็ยังมีความคลุมเครืออยู่ดี ในกรณีที่เป็นการสตรีมมิ่ง เราอาจจะพูดได้ว่า ในธุรกิจสินค้าก็อาจจะมีบริการเสริมอยู่ด้วย เช่น การจัดส่ง การบรรจุหีบห่อ การสลักชื่อ และในธุรกิจบริการก็อาจจะมีสินค้าอยู่ด้วยเหมือนกัน ดังนั้น Service Design ที่เรานำมาพูดถึงวันนี้จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการโดยตรงเท่านั้น แต่ธุรกิจสินค้าหรือธุรกิจอื่น ๆ ก็สามารถศึกษาและนำไปปรับใช้ได้ด้วยครับ ——————————-รู้จัก Service Design——————————-คำจำกัดความของ …

Service Design ฉบับเข้าใจง่าย – Factsheet No.66 Read More »

กฎ 80/20 ตัวเลขมหัศจรรย์ – Factsheet No.65

ถ้าเราสังเกตเหตุการณ์หรือปรากฎการณ์หลายอย่างในโลก เราจะพบว่า 80% ของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาใด ๆ ก็ตาม เกิดจากเหตุหรือความพยายามเพียง 20% เท่านั้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น80% ของการจัดเก็บภาษี มาจากคนในสังคมประมาณ 20%80% ของรายได้ในธุรกิจ เกิดจากกลุ่มลูกค้าประมาณ 20%80% ของอุบัติเหตุทางถนน เกิดจาก 20% แรกของเส้นทาง80% ของมลพิษในอากาศ เกิดจาก 20% ของประชากรและอีกมากมายหลายความเชื่อมโยง ที่เกิดจากสัดส่วน 80:20 ผู้ที่เริ่มสังเกตปรากฎการณ์นี้และนำมาเผยแพร่ในปี 1895 เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี ชื่อ Vilfredo Pareto ดังนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อปรากฎการณ์นี้ ว่า หลักพาเรโต (Pareto’s Principle) ที่เราจะนำมาพูดถึงในวันนี้ ————————————–ความหมายของหลักพาเรโต————————————–หลักพาเรโต แสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลของธรรมชาติ จากการที่มักจะมีสิ่งที่สำคัญของเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม โตยธรรมชาติเพียง 20% และสิ่งที่ไม่สำคัญอีก 80% ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั้งสถานการณ์ชีวิตทั่วไป และผลการสำรวจในภาพรวม โดยถือเป็นหลักการทางสถิติที่ได้รับความนิยม จากจุดเริ่มต้นที่พาเรโตค้นพบว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้หลักการนี้ โดยที่ 80% ของความมั่งคั่งของอิตาลีในช่วงเวลานั้นถูกควบคุมโดย 20% …

กฎ 80/20 ตัวเลขมหัศจรรย์ – Factsheet No.65 Read More »

Neobank ผ่านกรณีศึกษา KakaoBank ในเกาหลีใต้ – Factsheet No.64

การมาถึงของโลกดิจิทัลก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของวงการการเงินการธนาคารอย่างสูง จะเห็นได้ว่าธนาคารทุกแห่งในขณะนี้มีบริการผ่านอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ศักยภาพของแต่ละธนาคาร แต่ก็มีบริการธนาคารกลุ่มหนึ่ง ที่เริ่มจะมุ่งเน้นการให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการทำธุรกรรม โดยไม่ต้องให้บริการผ่านทางสาขาธนาคารอีกต่อไป ในทางสากลเรียกธนาคารที่ให้บริการแบบออนไลน์เท่านั้น ว่า นีโอแบงค์ (Neobank) ———————รู้จัก Neobank———————คำจำกัดความของนีโอแบงค์ คือธนาคารโดยตรง (Direct bank) ที่ดำเนินการเฉพาะช่องทางออนไลน์โดยที่ไม่มีสาขาแบบกายภาพ เพื่อท้าทายการให้บริการธนาคารแบบดั้งเดิม โดยแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ1. เป็นบริการทางการเงินที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารของตนเอง2. บริการทางการเงินที่มีความสัมพันธ์กับธนาคารแบบดั้งเดิม ————————รู้จัก KakaoBank————————KakaoBank (คาเคาแบงค์) เป็นนีโอแบงค์ของเกาหลีใต้ที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2016 โดยกลุ่มการเงิน Korea Investment Holdings และ บริษัทแพลตฟอร์มออนไลน์ Kakao ซึ่งมีบริการทั้งดิจิทัลคอนเทนต์ เกม แฟชั่น ความบันเทิง และเป็นแพลตฟอร์มพูดคุยแบบแชท (คล้ายกับ LINE) KakaoBank ให้บริการสู่สาธารณะในเดือนกรกฎาคม 2017 โดยมีการออกแบบ UI และ UX ที่เรียบง่าย ใช้งานได้ง่าย โดยให้บริการธนาคารเต็มรูปแบบภายใต้ใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคาร บริการ …

Neobank ผ่านกรณีศึกษา KakaoBank ในเกาหลีใต้ – Factsheet No.64 Read More »

ตัวตนของชายชื่อ Eric Yuan – Factsheet No.63

เมื่อการประชุมด้วย Video Conference ในช่วง WFH กลายเป็นเรื่องธรรมดา จนขนาดที่ว่าในภาษาอังกฤษได้เกิดคำกริยาใหม่ที่เกิดจากการพูดคุยประชุมผ่าน Zoom ว่า Zooming กันแล้ว วันนี้ Factsheets จะพาทุกท่านไปรู้จักกับซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Zoom นั่นก็คือ อีริค หยวน (Eric Yuan) เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของชายคนนี้กัน —————————-วัยเด็กและการศึกษา—————————-อีริค หยวน เกิดและเติบโตที่เมืองไท่อัน มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นวิศวกรด้านธรณีวิทยา ในวัยเด็ก อีริคมีงานอดิเรกคือการเก็บเศษวัสดุก่อสร้างที่เป็นทองแดงเพื่อรีไซเคิลไปขายเพื่อมีรายได้พิเศษ อีริค เติบโตขึ้นจนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชานตง ในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์ และเลือกเรียนวิชาโทคอมพิวเตอร์ประยุกต์ โดยในระหว่างที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 อีริคได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาซอฟต์แวร์โทรศัพท์แบบเห็นหน้า (Video telephony) ในระหว่างที่นั่งรถไฟ 10 ชั่วโมงเพื่อไปหาแฟนสาว ซึ่งต่อมาก็คือภรรยาของเค้า จากการที่เค้ากำลังมองหาวิธีที่ง่ายกว่าในการ “ไปหา” เธอ อีริคเรียนจบปริญญาตรีสาขาดังกล่าว และเรียนต่อปริญญาโทในด้านวิศวกรรมธรณีวิทยาเช่นเดียวกับพ่อของเค้า จบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเหมืองแร่และเทคโนโลยีในกรุงปักกิ่ง ———————ชีวิตการทำงาน———————หลังจบปริญญาโทในปี 1995 อีริคมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 เดือน และในช่วงเดียวกันนั้นเอง บิล …

ตัวตนของชายชื่อ Eric Yuan – Factsheet No.63 Read More »

แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบ MVP – Factsheet No.62

วันนี้ Factsheets จะขอมาเล่าให้ฟังสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับแนวทางหนึ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปทดสอบใช้ พิสูจน์ความต้องการ หรือส่งมอบได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือแนวคิดแบบ MVP (Minimum Viable Product) ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ ผลิตภัณฑ์ขั้นต่ำที่สุดที่สามารถใช้งานได้ คำว่า MVP ถูกใช้ครั้งแรกโดย Frank Robinson ในปี 2001 โดยจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานความสามารถหลัก (Function) ได้ก่อนในระยะแรก เพื่อให้เจ้าของสามารถทดสอบความถูกต้องของแนวคิดในวงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยตัดขั้นตอนการทำงาน ลดระยะเวลา ลดการใช้กำลังคน รวมไปทุนต้นทุนให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อนำผลการทดสอบมาปรับปรุงก่อนที่จะเพิ่มเติมความสามารถประกอบ (Feature) ต่าง ๆ เสริมเข้าไปภายหลัง ———————–ทำไมต้อง MVP———————–1. MVP สามารถปล่อยออกสู่ตลาดได้เร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานแบบเร่งด่วน2. MVP สามารถใช้ทดสอบกับผู้ใช้งานได้จริงก่อนที่จะทุ่มงบประมาณไปกับการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ3. MVP สามารถทดสอบความต้องการของตลาดและกลุ่มเป้าหมายได้ เพื่อให้รู้ว่าตรงใจตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายแค่ไหน โดยส่วนใหญ่แล้ว เหตุผลที่จะทำ MVP มักจะเป็นการทดสอบ ว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ใช้การได้ดีจริงหรือไม่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในด้านเงินทุน กำลังคน และเวลา ภาพจำของคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจ MVP …

แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบ MVP – Factsheet No.62 Read More »

Tuckman’s stages of group development – Factsheet No.61

ในแวดวงการศึกษาทั้งของไทยและโลกได้พูดถึงทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 มาพักใหญ่ ๆ แล้ว (และเราก็เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 มา 21 ปีเต็มแล้วด้วย) แต่เราก็ยังไม่สามารถสร้างคนที่มีทักษะเต็ม 100 ได้ครบหมดในรวดเดียว ทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งของศตวรรษที่ 21 นั้นคือการทำงานเป็นทีม ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะคิดว่าหัวใจของการทำงานเป็นทีมคือความสามัคคี ซึ่งก็คงไม่ได้ผิดอะไร แต่ทำไมมันถึงเป็นนามธรรมนัก จับต้องได้ยากเหลือเกิน วันนี้ Factsheets จะนำหลักการพัฒนาทีมมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้รับทราบกัน เพราะการสร้างทีมไม่ได้เป็นแค่การสั่งให้คนมาจับกลุ่มกันทำนั่นทำนี่ หรือชี้จิ้มตัวคนที่มีความสามารถเหมาะสมมารวม ๆ กันแล้วสั่งงาน ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นครับ วันนี้เราจะมาพูดถึง Tuckman’s stages of group development หรือ โมเดลระยะการพัฒนากลุ่มของทัคแมน เพื่อให้ท่านผู้อ่านไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน สมาชิกในทีม หรือโค้ชของทีม เกิดความเข้าใจมากขึ้นว่าการที่เราจะทำงานเป็นทีมให้ได้ผลสำเร็จนั้นมีระยะ (Stages) อะไรบ้าง แล้วในแต่ละระยะเราต้องทำอะไร เพื่อให้ได้ทีมที่มีความพร้อมในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ———————————-ระยะ 1 จัดตั้ง (Forming)———————————-การเรียกกลุ่มคนว่าทีม ไม่ได้หมายความว่าเป็นการเอาคนมาอยู่ด้วยกันเท่านั้น เพราะคนแต่ละคนมีทักษะ ประสบการณ์ ทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในขั้นตอนของการสร้างทีมจึงต้องทำให้ทุกคนมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน …

Tuckman’s stages of group development – Factsheet No.61 Read More »

Trump Steak สเต็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก !!! – Factsheet No.60

สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นับประสาอะไรกับนักธุรกิจที่ถึงแม้จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาแล้วระดับโลก ก็ต้องเคยมีก้าวที่พลาดอยู่บ้างเหมือนกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยเป็นถึงประธานาธิบดีของอภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา และเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น จากการที่ครั้งหนึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ เคยลงไปเล่นในธุรกิจอาหารแบบจริงจังขนาดเอาตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสื่อโฆษณาทั้งหมด และอาหารนั้นก็คือ สเต็ก ในปี 2007 ทรัมป์เปิดตัวร้านสเต็กที่ใช้ชื่อตัวเองแบบชัด ๆ ว่า Trump Steaks พร้อมข้อความโฆษณาที่ยืนยันถึงคุณภาพว่า เป็นสเต็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้!!! (The World’s Greatest Steaks) Trump Steaks ทุ่มทุนโฆษณาอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการใช้รายการเรียลิตี้ชื่อดังของเค้าเอง อย่าง The Apprentice และผู้เข้าแข่งขันในรายการมาช่วยโปรโมท ลงปกนิตยสาร ลงโฆษณาในช่องช็อปปิ้งทางโทรทัศน์โดยปรากฎตัวเองในรายการ โดยขายผ่านร้านขายอุปกรณ์แก็ดเจ็ท The Sharper Image และช่องทีวีช็อปปิ้ง QVC ในด้านสินค้า Trump Steaks ใช้เนื้อแองกัสคุณภาพสูงจาก Buckhead Beef เหมือนที่ใช้กับโรงแรมแลกคาสิโนของเค้าเอง และจำหน่ายอาหารเป็นแพ็คเกจ สนนราคาเริ่มที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ …

Trump Steak สเต็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก !!! – Factsheet No.60 Read More »

รู้จักโมเดลการตลาด AIDA – Factsheet No.59

วันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกับกระบวนการที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อของลูกค้า หรือ Purchase funnel กัน เพื่อท่านผู้อ่านจะได้เห็นภาพมากขึ้น ว่าก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการของเรา ขั้นตอนที่เราควรจะต้องทำให้เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง คำว่า Funnel ภาษาอังกฤษจะหมายถึงกรวยน้ำ โดยเราอาจจะได้ยินคนเรียก Purchase funnel ว่า Customer funnel, Marketing funnel, Sales funnel หรือ Conversion funnel ก็ขอให้เข้าใจได้โดยรวม ๆ ไปเลยว่าคือสิ่งเดียวกันนั่นเอง โดยแนวคิด Purchase funnel มีที่มาจากโมเดลการตลาดที่เรียกว่า AIDA โมเดล AIDA เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1903 จากงานเขียนของ E. St. Elmo Lewis นักวิชาการโฆษณาชาวอเมริกันซึ่งมีอิทธิพลต่อการศึกษาด้านการโฆษณาและสื่อสารการตลาดในเวลาต่อมาอย่างสูง โดยโมเดล AIDA แบ่งลำดับขั้นของการตัดสินใจซื้อหลัก ๆ เอาไว้ 4 ขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้ A (Awareness) คือการที่กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ …

รู้จักโมเดลการตลาด AIDA – Factsheet No.59 Read More »

กินอย่างไรให้สุขภาพดี ในช่วง Work from Home – Factsheet No.58

ในช่วงที่เราจะต้องกลับมา Work from home ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระยะนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากก็คือพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรา หลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกถึงสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปในระยะหลังมานี้ นอกจากออฟฟิศซินโดรมที่เริ่มเกิดขึ้น น้ำหนักที่เริ่มเพิ่มขึ้น (อาจจะเรียกว่าอีกครั้ง) วันนี้ Factsheets ขอนำวิธีการดี ๆ ในการจัดการการรับประทานอาหารมาฝากกัน ด้วยความห่วงใยและขอให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด-19 ไปด้วยกันครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีการมีอะไรบ้าง กำหนดเวลาอาหารให้ชัดเจนในสถานการณ์ปกติแล้วเรามักพบว่าฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีตารางในการจัดการเวลาในแต่ละวันที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำ การแต่งตัวที่เอื้อต่อการทำงาน การกำหนดช่วงเวลาที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ที่สำคัญก็คือ การรับประทานอาหาร Wilma MacDonald ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่า การทานจุกจิกเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของการทำงานที่บ้าน ดังนั้นเราควรที่จะจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้เป็นระเบียบ มีการพักทานมื้อเที่ยง และมีเวลาเบรคสำหรับทานของว่างบ้างเล็กน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ “มื้อเช้า” MacDonald แนะนำให้ทานอาหารเช้าก่อนที่จะเริ่มทำงานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวโอ๊ตร้อน ๆ ผลไม้ ไข่ ขนมปัง โดยเน้นทานโปรตีน เนื่องจากการทานอาหารเน้นโปรตีนในมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายสามารถรักษาระดับความสมดุลของน้ำตาลในเลือดได้ดี ซึ่งจะส่งผลให้เราอยากทานของหวานหรือของจุกจิกระหว่างมื้อน้อยลง อย่ารับประทานอาหารใกล้โต๊ะทำงานหากเราอยู่ที่ออฟฟิศ การทานอาหารบนโต๊ะทำงานอาจจะทำให้งานเราเสร็จเร็วขึ้นก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่เสมอไปโดยเฉพาะในการทำงานจากที่บ้าน เพราะเราจะไม่สามารถโฟกัสสองอย่างได้ดีพอในเวลาเดียวกัน ดังนั้นในเวลามื้ออาหาร ไม่ควรจะรับประทานบนโต๊ะทำงาน รวมถึงในระหว่างมื้ออาหารควรจะอยู่ห่างจากการสื่อสารออกมาระดับหนึ่งด้วย นอกจากจะดีต่อสุขภาพ ยังทำให้เราโฟกัสได้เป็นอย่าง …

กินอย่างไรให้สุขภาพดี ในช่วง Work from Home – Factsheet No.58 Read More »

ยาสีฟันคอลเกต – Factsheet No.57

วันนี้เราจะมาพูดกันถึงหนึ่งในยี่ห้อยาสีฟันที่คนทั่วโลกต้องรู้จักนั่นคือยาสีฟันยี่ห้อคอลเกต (Colgate) แต่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า วิลเลียม คอลเกต ผู้ก่อตั้งบริษัท ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าบริษัทของเค้าจะมาประสบความสำเร็จจากการขายยาสีฟัน เพราะอะไรล่ะ ? รู้จักกับวิลเลียม คอลเกตวิลเลียม คอลเกต เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอังกฤษ เกิดวันที่ 25 มกราคม 1783 ที่ประเทศอังกฤษ จนปี 1798 ครอบครัวคอลเกตก็ข้ามน้ำข้ามทะเล ย้ายไปตั้งรกรากใหม่ที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และทำธุรกิจผลิต/จำหน่ายเทียนไขกับสบู่ที่นั่น และย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์คในที่สุด ในปี 1806 วิลเลียม คอลเกต ได้ริเริ่มตั้งโรงงานเทียนไขและสบู่ในชื่อ William Colgate & Company จนเขาเสียชีวิตในปี 1857 และหลังจากนั้น 16 ปี ยาสีฟันที่ทุกคนรู้จักจึงค่อยเกิดขึ้นมา ธุรกิจยาสีฟันในปี 1873 หลังจากที่ วิลเลียม คอลเกต เสียชีวิตไปแล้ว 16 ปี แซมูเอล คอลเกต ลูกชายของเขาได้เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันขึ้น โดยมีบรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้ว ใช้ชื่อสินค้าว่า Colgate’s …

ยาสีฟันคอลเกต – Factsheet No.57 Read More »